ประกันกลุ่ม Flexi Pack สำหรับองค์กรที่มีพนักงาน 5–149 คน

ประกันกลุ่ม Flexi Pack แผนประกันภัยกลุ่มแบบสำเร็จรูป สำหรับองค์กรขนาด 5–149 คน ความคุ้มครองยืดหยุ่น ให้นายจ้างเลือกได้ตามความต้องการขององค์กร

เงื่อนไขการรับสมัคร

• สำหรับองค์กรขนาด 5-149 คน
• ช่วงอายุผู้ขอเอาประกันภัย ตั้งแต่ 15-64 ปี
• อายุเฉลี่ยของพนักงานไม่เกิน 45 ปี
• คุ้มครองต่อเนื่องถึงอายุ 70 ปี
• เป็นธุรกิจที่มีความเสี่ยงไม่เกินอาชีพชั้น 3

สำหรับใครที่ยังไม่ทราบว่า ชั้นอาชีพ คืออะไร อ่านบทความที่นี่เลย
: ไขข้อข้องใจ 4 ชั้นอาชีพ คืออะไร? ทำไมต้องรู้ก่อนทำประกัน 

ประกันกลุ่ม Flexi Pack คืออะไร?

ประกันกลุ่ม Flexi Pack (เฟล็กซ์ซี่ แพ็ค) เป็นแผนประกันภัยกลุ่มแบบสำเร็จรูปที่เพิ่มความยืดหยุ่นให้นายจ้างสามารถเลือกความคุ้มครองที่เหมาะสมกับความต้องการขององค์กรและพนักงาน โดยสามารถปรับเปลี่ยนวงเงินผลประโยชน์ต่างๆ ภายใต้งบประมาณที่กำหนดได้ เหมาะสำหรับองค์กรขนาดเล็กถึงขนาดกลางที่มีจำนวนพนักงานตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปและสูงสุด 149 คน หรือ 49 คน กรณีมีความคุ้มครองประกันสุขภาพ

จุดเด่นของประกันกลุ่ม Flexi Pack

• อิสระในการออกแบบความคุ้มครอง
• เริ่มต้น SME เพียงแค่ 5 ก็ทำได้
• ออกแบบความคุ้มครองตามตำแหน่งพนักงานได้
• มีความคุ้มครองพิเศษเพิ่มเติม
• มีบริการพิเศษ ช่วยเหลือด้านการเดินทางและการแพทย์

ความแตกต่างระหว่าสวัสดิการพนักงานทั่วไปกับ Flexi Pack

ตารางเปรียบเทียบความคุ้มครองพิเศษเพิ่มเติมเฟล็กซ์ซี่ แพ็คกับสวัสดิการพนักงานทั่วไป

ตารางผลประโยชน์ เฟล็กซ์ซี่ แพ็ค

 

สัญญาเพิ่มเติมผลประโยชน์ 40 โรคร้ายแรง

บริการพิเศษ (Special Services)

ตัวอย่างการจัดผลประโยชน์ประกันกลุ่ม Flexi Pack

บริษัท A จำกัด ทำธุรกิจสำนักงานบัญชีและกฎหมาย มีพนักงานทั้งหมด 10 คน สนใจต้องการจัดให้มีสวัสดิการสำหรับพนักงาน โดยแบ่งแผนสวัสดิการเป็น 3 แผน ได้แก้ แผนพนักงาน แผนผู้จัดการ และแผนผู้บริหาร

ตัวอย่างเบี้ยประกันกลุ่ม Flexi Pack

• กรณีที่ 1 อายุเฉลี่ยพนักงาน เท่ากับ 35 ปี | รวมเบี้ยประกันรายปีทั้งหมดประมาณ 118,000 บาท
• กรณีที่ 2 อายุเฉลี่ยพนักงาน เท่ากับ 45 ปี และอายุของพนักงานแต่ละคนน้อยกว่า 50 ปี | รวมเบี้ยประกันรายปีทั้งหมดประมาณ 118,000 บาท
• กรณีที่ 3 อายุเฉลี่ยพนักงาน เท่ากับ 45 ปี และจำนวน 60% ของพนักงานมีอายุมากกว่า 50 ปี | รวมเบี้ยประกันรายปีทั้งหมดประมาณ 118,000 บาท

หมายเหตุ*

– เบี้ยประกันกลุ่ม Flexi Pack อาจมีความแตกต่างกัน โดยขึ้นอยู่กับอายุของพนักงานแต่ละคนในแต่ละองค์กร
– ตัวอย่างเบี้ยประกันข้างต้น เป็นเพียงเบี้ยประกันโดยประมาณเท่านั้น!

กฎเกณฑ์การพิจารณารับประกันภัย

คุณสมบัติขององค์กรที่สามารถยื่นขอเอาประกันภัย

• ธุรกิจที่ประกอบด้วยจำนวนพนักงานประจำ 5-149 คน หรือ 5-49 คน กรณีต้องการทำประกันสุขภาพของพนักงาน ไม่รวมผู้อยู่ในอุปการะ (คู่สมรสและบุตร)
• พนักงานประจำที่ปฏิบัติงานเต็มเวลา ต้องมีอายุระหว่าง 15-64 ปี ในวันที่กรมธรรม์มีผลบังคับ
• กรณีมีกรมธรรม์ประกันภัยกลุ่มมาก่อนและต้องการความคุ้มครองต่อเนื่อง สามารถขยายความคุ้มครองได้ถึงอายุ 70 ปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการพิจารณารับประกันของเอไอเอ
• อายุเฉลี่ยของพนักงานทั้งหมดต้องไม่เกิน 45 ปี

หลักเกณฑ์ในการเข้าร่วมการทำประกันภัย

พนักงาน คู่สมรส และบุตร ที่มีสิทธิทั้งหมดจะต้องเข้าร่วมทำประกันภัย (กรณีขยายความคุ้มครองถึงคู่สมรสและบุตร) โดยมีหลักเกณฑ์การพิจารณารับประกันภัย ดังนี้

ผู้มีสิทธิทำประกันภัย		จำนวนพนักงาน 5-49 คน	จำนวนพนักงาน 50-149 คน
พนักงานและคู่สมรส	อายุที่รับประกัน	15-64 ปี	15-69 ปี (2), (3)
	อายุที่คุ้มครอง	ถึงอายุ 70 ปี (3)	ถึงอายุ 70 ปี (3)
บุตร	อายุที่รับประกัน	อายุไม่ต่ำกว่า 2 สัปดาห์ และไม่เกิน 18 ปี และยังมิได้สมรสทั้งนี้จะขยายความคุ้มครองให้แก่บุตรที่มีอายุระหว่าง 18 ปี จนถึง 22 ปี โดยเป็นผู้ซึ่งกำลังศึกษาเต็มเวลาและได้รับการอุปการะทางด้านการเงินจากพนักงาน และยังมิได้สมรส
	อายุที่คุ้มครอง	ถึงอายุ 23 ปี

(1) คุ้มครองถึงอายุ 65 ปี สำหรับการประกันภัย 40 โรคร้ายแรง
(2) ขยายความคุ้มครองให้กับพนักงานและคู่สมรสที่มีอายุ 65-69 ปี สำหรับกรมธรรม์ที่ต้องการความคุ้มครองต่อเนื่องและจำนวนพนักงานและคู่สมรสที่มีอายุระหว่าง 65-69 ปี จะต้องไม่เกิน 5% ของจำนวนพนักงานทั้งหมด
(3) ให้คุ้มครองถึงอายุ 65 ปี สำหรับการประกันภัย 40 โรคร้ายแรง
(4) ผลประโยชน์และความคุ้มครองสำหรับบกรณีอายุ 65-69 ปี ต้องไม่เกินที่ เอไอเอ กำหนด^[21]

การกรอกใบสมัครและวันที่มีผลความคุ้มครอง

รายละเอียด	จำนวนพนักงาน 5-49 คน	จำนวนพนักงาน 50-149 คน
การกรอกใบสมัคร พนักงาน	กรอกใบสมัครแบบแถลงสุขภาพ ตามแบบฟอร์มของเอไอเอ	จำนวนเงินเอาประกันภัยไม่เกินวงเงินประกันชีวิตที่ไม่ต้องแสดงหลักฐานความสามารถในการเอาประกันภัย (Policy NEL) กรอกใบสมัครขอเอาประกันภัยพนักงาน (การ์ดเขียว) จำนวนเงินเอาประกันภัยเกินกว่าวงเงินเอาประกันชีวิตที่ไม่ต้องแสดงหลักฐานความสามารถในการเอาประกันภัย (Policy NEL) กรอกใบสมัครแบบแถลงสุขภาพตามแบบฟอร์มของเอไอเอ
คู่สมรสและบุตร		กรอกใบสมัครขอเอาประกันภัยผู้อยู่ในอุปการะ (การ์ดเขียว)
วันที่เริ่มมีผลบังคับของกรมธรรม์ประกันภัย	วันถัดไปหลังจากที่เอไอเอได้รับและอนุมัติใบคำขอเอาประกันภัยกลุ่มที่เป็นหลักฐานแสดงความสามารถในการเอาประกันภัยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว	วันถัดไปหลังจากที่เอไอเอได้รับและอนุมัติใบคำขอเอาประกันภัยกลุ่มที่เป็นหลักฐานแสดงความสามารถในการเอาประกันภัยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
พนักงานเข้าร่วมทำประกันภัยระหว่างปีกรมธรรม์	วันถัดไปหลังจากที่เอไอเอได้รับและอนุมัติใบสมัครแบบแถลงสุขภาพตามแบบฟอร์มของเอไอเอเป็นที่เรียบร้อยแล้ว	วันแรกที่เริ่มปฏิบัติงาน หรือวันที่พ้นระยะทดลองงาน (ตามที่นายจ้างกำหนดไว้ในระยะเวลารอคอยในใบสมัคร)

การชำระเบี้ยประกันภัย

• ธุรกิจที่มีจำนวนพนักงานตั้งแต่ 5-49 คน : ต้องชำระเบี้ยประกันภัยแบบรายปีเท่านั้น
• ธุรกิจที่มีจำนวนพนักงานตั้งแต่ 50-99 คน : สามารถเลือกชำระแบบรายปี หรือราย 6 เดือน
• ธุรกิจที่มีจำนวนพนักงานตั้งแต่ 100 คนขึ้นไป : สามารถเลือกชำระแบบรายปี หรือราย 6 เดือน หรือราย 3 เดือน
• นายจ้างเป็นผู้รับผิดชอบชำระเบี้ยประกันภัยของพนักงาน คู่สมรส และบุตรทั้งหมด

การเลือกและการกำหนดแผนประกันภัย

• พนักงานที่มีสิทธิเอาประกันและอยู่ในตำแหน่งเดียวกัน จะต้องสมัครทำประกันภัยในแผนเดียวกัน
• คู่สมรสและบุตรจะต้องสมัครเอาประกันภัยภายใต้ผลประโยชน์เดียวกัน หรือต่ำกว่าพนักงานเท่านั้น
• 1 กรมธรรม์ สามารถประกอบด้วยแผนประกันภัยไม่เกินกว่า 3 แผน (กำหนดแผนประกันได้สูงสุด 3 แผน ต่อ 1 กรมธรรม์)

จำนวนพนักงาน	จำนวนแผนสูงสุดไม่เกิน (รวมแผนคู่สมรสและบุตรกรณี ผลประโยชน์ไม่เท่ากับพนักงาน)
5-19	5
20-49	6
50-149	7

• ภายใต้กรมธรรม์เดียวกัน ความคุ้มครองแบบบังคับได้แก่ ประกันชีวิต เท่านั้น
• ผลประโยชน์สำหรับการเลือกซื้อเพิ่มเติม แบบไม่มีค่ารักษาพยาบาล ได้แก่ การประกันภัยอุบัติเหตุ การประกันภัยทุพพลภาพสิ้นเชิงถาวร และการประกันภัย 40 โรคร้ายแรง
  • การกำหนดผลประโยชน์ การประกันภัยอุบัติเหตุ การประกันภัยทุพพลภาพสิ้นเชิงถาวร และการประกันภัย 40 โรคร้ายแรง ภายใต้กรมธรรม์เดียวกัน จะต้องเลือกการกำหนดจำนวนผลประโยชน์แบบเดียวกันเท่านั้น ได้แก่ การกำหนดจำนวนเงินเอาประกันภัยแบบคงที่ หรือแบบจำนวนเท่ากันของเงินเดือน
  • การประกันภัยทุพพลภาพสิ้นเชิงถาวร จำนวนเงินเอาประกันภัยจะต้องไม่เกินจำนวนเงินเอาประกันภัยของประกันชีวิต และถ้าแผนใดมีผลประโยชน์นี้ ทุกแผนประกันจะต้องมีทั้งหมด
  • กรณีต้องการผลประโยชน์ 40 โรคร้ายแรงให้กับคู่สมรสและบุตร ผลประโยชน์ของพนักงานสามารถเลือกแบบกำหนดจำนวนเงินเอาประกันภัยแบบคงที่เท่านั้น
  • ผลประโยชน์ ประกันชีวิต อุบัติเหตุ และทุพพลภาพสิ้นเชิงถาวร เป็นผลประโยชน์ที่ไม่สามารถให้ความคุ้มครองกับคู่สมรสและบุตรได้
• ผลประโยชน์สำหรับการเลือกซื้อเพิ่มเติม แบบมีค่ารักษาพยาบาล ได้แก่ ค่ารักษาแบบผู้ป่วยใน ค่ารักษาแบบคนไข้นอกก่อนการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล ค่าตรวจรักษาแบบคนไข้นอก ค่าตรวจวินิจฉัยโรคด้วยรังสีเอ็กซ์และการตรวจในห้องทดลองแบบผู้ป่วยนอก ค่าศัลยกรรมเพิ่มทวีในโรงพยาบาล ค่าทันตกรรมและค่ารักษารายวันในโรงพยาบาล
  • กรณีต้องการผลประโยชน์ค่าตรวจรักษาแบบคนไข้นอก ค่าตรวจวินิจฉัยโรคด้วยรังสีเอ็กซ์และการตรวจในห้องทดลองแบบผู้ป่วยนอก ค่าศัลยกรรมเพิ่มทวีในโรงพยาบาล ค่าทันตกรรม จะต้องมีผลประโยชน์ค่ารักษาแบบผู้ป่วยในก่อน
  • ผลประโยชน์ค่ารักษารายวันในโรงพยาบาล เป็นผลประโยชน์ที่ไม่สามารถให้ความคุ้มครองกับคู่สมรสและบุตรได้
• การสมัครทำประกันให้กับคู่สมรสและบุตรของพนักงาน
  • คู่สมรสและบุตรที่มีคุณสมบัติเข้าร่วมการรับประกันภัยของพนักงานทุกท่านจะต้องทำประกันภัยทั้งหมด
  • การประกันภัย 40 โรคร้ายแรง ประกันค่ารักษาพยาบาลและทันตกรรม เป็นผลประโยชน์ที่นายจ้างสามารถเลือกทำเพิ่มเติมให้กับคู่สมรสและบุตรได้เท่านั้น
• ความแตกต่างของจำนวนเงินเอาประกันหรือจำนวนผลประโยชน์ของความคุ้มครองพื้นฐานและเลือกซื้อเพิ่มเติม จะต้องไม่เกิน 3 เท่าของแผนก่อนหน้า เช่น จำนวนเงินเอาประกันภัยแผน 1 เท่ากับ 100,000 บาท แผน 2 จะต้องไม่เกิน 300,000 บาท

เอกสารประกอบในการสมัคร

• ใบคำขอเอาประกันภัยกลุ่มสวัสดิการพนักงาน (สำหรับนายจ้าง)
• สำเนาหนังสือรับรองที่ออกโดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ไม่เกิน 6 เดือน ลงนามรับรองความถูกต้องโดยกรรมการผู้มีอำนาจ
• หนังสือมอบอำนาจ (ถ้ามี)
• สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือสำเนาหนังสือเดินทางของผู้มีอำนาจลงนามพร้อมเซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง
• คำรับรองสำหรับผู้ถือกรมธรรม์หนังสือรับรอง การได้รับความยินยอมจากสมาชิกผู้เอาประกันภัย/ผู้อยู่ในอุปการะ (Consent)
• แบบฟอร์มลงทะเบียนข้อมูลผู้ติดต่อ (Contact Registration)
• หนังสือแจ้งความจำนงให้จ่ายผลประโยชน์ตามกรมธรรม์ประกันภัยกลุ่ม ผ่านบัญชีธนาคาร (ถ้ามี)
• สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง
• ใบสมัครแบบแถลงสุขภาพ สำหรับองค์กรที่มีพนักงาน 5-19 คน
• ใบสมัครขอเอาประกันภัยพนักงาน (การ์ดเขียว) สำหรับองค์กรที่มีพนักงาน 20 คนขึ้นไป
• กรณีขยายความคุ้มครองให้กับคู่สมรส และบุตร ต้องกรอกใบสมัครแถลงสุขภาพตามแบบฟอร์มของเอไอเอ หรือใบสมัครขอเอาประกันภัยผู้อยู่ในอุปการะ (การ์ดขาว) แล้วแต่กรณี
• สำเนาบัตรประชาชนของพนักงาน คู่สมรส และบุตรแต่ละคน พร้อมลงนามกำกับรับรองสำเนาถูกต้อง
• สำเนาใบอนุญาตทำงาน (Work permit) พร้อมแนบสำเนาหนังสือเดินทาง และลงนามรับรองสำเนาถูกต้อง สำหรับพนักงานชาวต่างชาติ
• เอกสารเพิ่มเติมอื่นๆ (ถ้ามี)

การพิจารณาต่ออายุกรมธรรม์ ณ วันครบรอบปีกรมธรรม์

(ผ่านตัวแทนผู้ให้บริการ โดยระบบ iCS Package เท่านั้น)

• กรมธรรม์ที่สามารถต่ออายุภายใต้แบบประกันนี้ได้ จะต้องมีจำนวนพนักงานประจำตั้งแต่ 5-149 คน สำหรับกรมธรรม์ที่ไม่มีประกันค่ารักษาพยาบาล หรือ 5-49 คน สำหรับกรมธรรม์ที่มีค่ารักษาพยาบาล
• กรณีจำนวนพนักงานน้อยกว่า 5 คน จะไม่สามรถต่ออายุกรมธรรม์ได้
• กรณีที่มีพนักงานเพิ่มขึ้นเกินกว่า 149 คน สำหรับกรมธรรม์ที่ไม่มีค่ารักษาพยาบาล จะต้องเปลี่ยนแบบประกันเป็นแบบ Non-Package ซึ่งเอไอเอจะออกข้อเสนอ โดยเบี้ยประกันจะพิจารณาจากอัตราเรียกร้องค่าสินไหมที่ผ่านมา เพื่อพิจารณาและลงนามยืนยันการต่ออายุกรมธรรม์
• การเปลี่ยนแปลงผลประโยชน์จะกระทำได้ภายในระยะเวลา 3 เดือน ก่อนวันครบรอบปีกรมธรรม์ ผ่านระบบ iCS Package และจำมีผลบังคับ ณ วันครบรอบปีกรมธรรม์เท่านั้น
• อัตราเบี้ยประกันภัยบริษัทจะพิจารณาปรับเพิ่มขึ้น หรือลดลงตามอัตราการเรียกร้องสินไหมทดแทน หรืออาจมีการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการรับประกันภัย ณ วันครบรอบปีกรมธรรม์ใดๆ โดยจะทำจดหมายแจ้งให้นายจ้างทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 31 วัน ก่อนวันครบรอบปีกรมธรรม์
• ลูกค้าเดิมที่เคยมีประวัติการถูกเพิ่มเบี้ยประกันภัย และต่อมากรมธรรม์ขาดการต่ออายุ บริษัทสงวนสิทธิ์ในการพิจารณาเพิ่มอัตราเบี้ยประกันภัยตามเกณฑ์ที่บริษัทกำหนด

 

ติดต่อสอบถามกับตัวแทน AIA

คำถามที่พบบ่อย