ปลายประสาทอักเสบ กลายเป็นโรคที่พบได้บ่อยในยุคปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นวัยทำงานหรือผู้สูงอายุ การใช้ชีวิตที่เร่งรีบและการรับประทานอาหารที่ไม่เหมาะสมล้วนเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่นำไปสู่โรคนี้ หากปล่อยทิ้งไว้ อาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตอย่างมาก บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับสาเหตุ อาการ วิธีรักษาของโรค และอาหารที่ควรหลีกเลี่ยง เพื่อให้คุณสามารถรับมือกับโรคนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โรคปลายประสาทอักเสบ คืออะไร?
โรคปลายประสาทอักเสบ หรือ Peripheral neuropathy เป็นภาวะที่เกิดจากความเสียหายของเส้นประสาทส่วนปลาย ซึ่งส่งผลกระทบต่อการทำงานของระบบประสาทส่วนนอก ทำให้ผู้ป่วยมีอาการผิดปกติ ที่เกี่ยวข้องกับเส้นประสาท เช่น ชา เหน็บ ปวด แสบร้อน อ่อนแรง หรือรู้สึกผิดปกติที่มือ เท้า หรือส่วนอื่นๆ ของร่างกาย
สาเหตุของโรคปลายประสาทอักเสบ
สาเหตุของโรคนี้มีความหลากหลายและซับซ้อน โดยปัจจัยหลักที่ก่อให้เกิดภาวะนี้ได้แก่ โรคเบาหวาน ซึ่งเป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุด เนื่องจากระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงเรื้อรังจะไปทำลายเส้นประสาท นอกจากนี้ การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากและต่อเนื่องเป็นเวลานาน ภาวะขาดวิตามินบางชนิด เช่น วิตามินบี 12 และวิตามินบี 6 การติดเชื้อบางชนิด โรคทางพันธุกรรม ผลข้างเคียงจากการใช้ยา ภาวะบาดเจ็บ และโรคมะเร็งบางชนิด ก็ล้วนเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคนี้ได้เช่นกัน
ปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ที่อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคนี้ ได้แก่ อายุที่เพิ่มขึ้น เพศชาย การสูบบุหรี่ ภาวะน้ำหนักเกิน หรืออ้วน การสัมผัสสารพิษ และโรคเรื้อรังบางชนิด เช่น โรคไตวาย โรคตับแข็ง การทำความเข้าใจถึงสาเหตุของโรคนั้น มีความสำคัญอย่างยิ่งในการวางแผนการรักษาและป้องกัน เนื่องจากการรักษาจะเน้นไปที่การแก้ไขสาเหตุที่แท้จริงควบคู่ไปกับการบรรเทาอาการ
ผู้ที่มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดอาการชาจากโรคปลายประสาทอักเสบ ได้แก่ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ผู้ที่รับประทานอาหารเจหรือมังสวิรัติ ซึ่งอาจขาดวิตามินบางชนิด และผู้ที่ใช้มือถือหรือคอมพิวเตอร์เป็นระยะเวลานานจนเกิดการกดทับเส้นประสาท
อาการของโรคปลายประสาทอักเสบ
อาการของโรคนี้ขึ้นอยู่กับชนิดและความรุนแรงของความเสียหายที่เกิดขึ้นกับเส้นประสาท อาการที่พบบ่อย ได้แก่
- รู้สึกชาที่มือ เท้า หรือส่วนอื่นๆ ของร่างกาย
- รู้สึกเหมือนมีเข็มทิ่มแทง
- ปวดแสบปวดร้อน อาจปวดมากจนนอนไม่หลับ
- กล้ามเนื้ออ่อนแรง ทำให้ทำกิจวัตรประจำวันได้ยาก
- รู้สึกผิดปกติเหมือนมีอะไรคลาน หรือรู้สึกว่ามีอะไรสัมผัสอยู่
การรักษาโรคปลายประสาทอักเสบ
การรักษาโรคขึ้นอยู่กับสาเหตุของโรค โดยแพทย์จะทำการวินิจฉัยและให้การรักษาที่เหมาะสม ซึ่งอาจรวมถึงการควบคุมปัจจัยเสี่ยงต่างๆ เช่น ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน ลดการดื่มแอลกอฮอล์
- อาจมีการใช้ยารักษาโรคที่มีส่วนประกอบของโอปิออยด์ (Opioid) ซึ่งเป็นยาที่สั่งโดยแพทย์เท่านั้น ในกรณีรักษาด้วยวิธีอื่น ไม่ได้ผล
ในรายที่ไม่รุนแรงมาก สามารถรับประทานยาลดการอักเสบ (NSAIDs) หรือใช้แผ่นแปะเฉพาะจุดเพื่อบรรเทาอาการปวด หรือการทำกายภาพบำบัดเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อและเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อจากความเสียหายของเส้นประสาท ในบางกรณีที่จำเป็นอาจจะต้องเข้ารับการผ่าตัด เช่น มีเส้นประสาทถูกกดทับ เป็นต้น
บทความที่คนอาจสนใจ: 15 อาหารลดไขมันในเส้นเลือด มีอะไรบ้าง
ปลายประสาทอักเสบ ห้ามกินอะไร
รู้หรือเปล่าว่า อาหารที่เราทานทุกวันน่ะ มีผลต่อสุขภาพของเส้นประสาทของเรามากกว่าที่คิดนะ ถ้าอยากให้อาการดีขึ้น ลองมาดูกันว่าอาหารชนิดไหนบ้างที่ควรหลีกเลี่ยง
1. อาหารแปรรูป
อาหารแปรรูปต่างๆ เช่น มาม่า ไส้กรอก แฮม เบคอน ขนมขบเคี้ยว มีโซเดียมสูง ซึ่งอาจทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น และส่งผลเสียต่อเส้นประสาท
2. อาหารทอด
อาหารทอดมีไขมันทรานส์สูง ซึ่งเป็นไขมันชนิดไม่ดีต่อสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด ทำให้การไหลเวียนเลือดไม่ดีและส่งผลต่อการทำงานของเส้นประสาท
3. อาหารรสจัด
อาหารรสจัด เช่น พริก กระเทียม หอมแดง อาจกระตุ้นให้เกิดการอักเสบในร่างกายได้มากขึ้น ทำให้อาการของปลายประสาทอักเสบรุนแรงขึ้น
4. อาหารหวาน
อาหารและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง เช่น น้ำอัดลม ขนมหวาน เค้ก คุกกี้ อาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดผันผวน และส่งผลเสียต่อเส้นประสาทโดยเฉพาะในผู้ป่วยเบาหวานซึ่งเป็นสาเหตุเสี่ยงที่พบบ่อยได้ที่สุด เนื่องจากระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงเรื้อรังจะไปทำลายเส้นประสาท
5. เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
แอลกอฮอล์ทำลายวิตามินบี ซึ่งมีความสำคัญต่อการทำงานของระบบประสาท และยังทำให้หลอดเลือดตีบ ทำให้การไหลเวียนเลือดไม่ดี
6. คาเฟอีน
คาเฟอีนในกาแฟ ชา โซดา ทำให้หลอดเลือดหดตัว ส่งผลต่อการไหลเวียนเลือด และอาจทำให้อาการปวดและชารุนแรงขึ้น
7. ปลาร้า
คนที่ชอบทานปลาร้า ใบชา ใบเมี่ยง หรือหมากพลู รวมถึงผู้ทานมังสวิรัติ อาจเสี่ยงขาดวิตามินบี 1 ได้ เพราะอาหารเหล่านี้มีสารที่ทำลายวิตามินชนิดนี้ ซึ่งสำคัญต่อระบบประสาท หากขาดวิตามินบี 1 นานๆ อาจนำไปสู่อาการชาหรือโรคได้
ปลายประสาทอักเสบ หายเองได้ไหม
คำตอบสั้นๆ คือ อาจหายเองได้ในบางกรณี แต่ไม่ใช่ทุกคน การที่โรคจะหายเองได้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น สาเหตุของการอักเสบ, ความรุนแรงของอาการ ถ้าอาการไม่รุนแรงมาก อาจหายเองได้
แต่ในบางกรณีที่ผู้ป่วยมีอาการของปลายประสาทอักเสบรุนแรง หรือใช้แนวทางการรักษาทั่วไปแล้วไม่ดีขึ้น อาจจำเป็นต้องทำการผ่าตัดเพื่อแก้ไขการกดทับหรือซ่อมแซมเส้นประสาทที่เสียหายจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
จะเห็นได้ว่าโรคปลายประสาทอักเสบมีสาเหตุและความรุนแรงแตกต่างกันไป การรักษาจึงขึ้นอยู่กับปัจจัยเหล่านี้ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะทำการวินิจฉัยและวางแผนการรักษาที่เหมาะสม ซึ่งอาจรวมถึงการใช้ยา การผ่าตัด การทำกายภาพบำบัด หรือการใช้เครื่องมือทางการแพทย์ นอกจากนี้ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เช่น การควบคุมน้ำหนัก การออกกำลังกาย และการเลิกสูบบุหรี่ ก็มีความสำคัญในการบรรเทาอาการและป้องกันโรคกลับมาเป็นซ้ำ
อ้างอิง: samitivejhospitals.com, vimut.com, thaihealth.or.th