ไข้หวัดใหญ่ โรคติดต่อร้ายแรงที่อาจถึงชีวิต รู้ทันสาเหตุ อาการและการรักษา ไข้หวัดใหญ่ สาย พันธุ์ A, B และ C กี่วันหาย คำถามที่คุณพ่อคุณแม่สงสัย เมื่อลูกน้อยป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ หาคำตอบได้ในบทความนี้
ไข้หวัดใหญ่ (Influenza) เป็นโรคติดเชื้อไวรัสในระบบทางเดินหายใจ เกิดจากไวรัสไข้หวัดใหญ่ (Influenza virus) อาการของโรคอาจมีได้ตั้งแต่เบาถึงรุนแรง อาการที่พบบ่อย ได้แก่ ไข้สูง คัดจมูก เจ็บคอ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดศีรษะ ไอ จามและรู้สึกเหนื่อย โรคนี้มักระบาดในช่วงฤดูหนาวของทุกปี ในประเทศไทยพบได้บ่อยในช่วงเดือนธันวาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ ผู้ที่ติดเชื้อ Influenza สามารถแพร่เชื้อได้ผ่านการไอ จาม หรือสัมผัสสารคัดหลั่งจากจมูกหรือปากของผู้ติดเชื้อ
Influenza โดยปกติแล้ว สามารถหายได้เอง แต่ในบางกรณีอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงถึงชีวิตได้ เช่น ปอดบวม โรคหลอดลมอักเสบ โรคหูชั้นกลางอักเสบ และโรคหัวใจอักเสบ ในผู้สูงอายุ เด็กเล็ก และผู้มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคปอด โรคเบาหวาน และโรคมะเร็ง มีโอกาสที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงได้มากกว่าคนทั่วไป
ไข้หวัดใหญ่ มีกี่สายพันธุ์
Influenza Virus ในคนมีทั้งหมด 3 สายพันธุ์หลัก คือ สายพันธุ์ A สายพันธุ์ B และสายพันธุ์ C แต่มีเพียงสายพันธุ์ A และ B ที่มีการระบาดโดยทั่วไป
ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A
สายพันธุ์ A เป็นสายพันธุ์ที่พบบ่อยที่สุดและทำให้เกิดโรครุนแรงกว่าสายพันธุ์อื่นๆ สายพันธุ์ A แบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ ประเภท H1N1 และประเภท H3N2
ประเภท H1N1
ประเภท H1N1 เดิมทีเป็นสายพันธุ์ในหมู แต่ในปี พ.ศ. 2552 ได้เกิดการกลายพันธุ์และแพร่ระบาดสู่คน โดยสายพันธุ์นี้เรียกว่า H1N1pdm09 หรือไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 สายพันธุ์ H1N1pdm09 มีการระบาดอย่างรุนแรงทั่วโลกในปี พ.ศ. 2552-2553 ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 12,000 คนในประเทศไทย
ประเภท H3N2
ประเภท H3N2 เป็นสายพันธุ์ที่พบบ่อยที่สุดในปัจจุบัน สายพันธุ์นี้มักระบาดในช่วงฤดูหนาวของทุกปี สายพันธุ์ H3N2v เป็นซับไทป์หนึ่งของประเภท H3N2 ที่พบได้บ่อยในนก แต่สามารถแพร่ระบาดสู่คนได้เช่นกัน
ไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ A กี่วันหาย
ผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่ติดเชื้อสายพันธ์ A ระยะการหายจากโรคจะอยู่ในช่วง 5- 7 วัน
ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ B
ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ B เป็นสายพันธุ์ที่พบได้บ่อยเป็นอันดับสองรองจากสายพันธุ์ A สายพันธุ์ B แบ่งออกเป็น 2 สายพันธุ์ คือ
Lineage Victoria
เป็นสายพันธุ์ B ที่พบบ่อยที่สุด สายพันธุ์นี้มักระบาดในช่วงฤดูหนาวของทุกปี
Lineage Yamagata
เป็นสายพันธุ์ที่พบได้น้อยกว่า Lineage Victoria สายพันธุ์นี้มักระบาดในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนของทุกปี
ไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ B กี่วันหาย
ผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่ติดเชื้อสายพันธ์ B จะหายเป็นปกติภายใน 1 – 2 สัปดาห์
ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ C
สายพันธุ์ C เป็นสายพันธุ์ ที่พบได้น้อยที่สุดและมักไม่รุนแรง อาการของสายพันธุ์ C มักคล้ายกับอาการของไข้หวัดธรรมดา
สาเหตุของโรคไข้หวัดใหญ่
เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่จะติดต่อจากคนสู่คนผ่านทางละอองฝอยที่เกิดจากการไอ จาม หรือพูดของผู้ป่วย ละอองฝอยเหล่านี้จะลอยอยู่ในอากาศและสามารถเข้าสู่ร่างกายของผู้ที่อยู่ใกล้เคียงผ่านทางจมูก ปาก หรือดวงตา เชื้อไวรัสสามารถมีชีวิตอยู่ได้นานหลายชั่วโมงบนพื้นผิวที่แห้ง ดังนั้นจึงสามารถติดต่อได้จากการสัมผัสพื้นผิวที่มีเชื้อไวรัสปนเปื้อนแล้วนำมือมาสัมผัสจมูก ปาก หรือดวงตา
เชื้อไวรัสจะเข้าสู่เซลล์ในร่างกายแล้วเริ่มแบ่งตัวอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เซลล์ถูกทำลายและเกิดอาการของโรค Influenza ขึ้น อาการมักเกิดขึ้นอย่างเฉียบพลันและรุนแรงกว่าไข้หวัดธรรมดา
ผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรงจะมีโอกาสติดเชื้อไวรัสได้หากอยู่ใกล้ชิดกับผู้ป่วย โดยผู้ป่วยจะเริ่มแพร่เชื้อได้ตั้งแต่ 1 วันก่อนแสดงอาการ และสามารถแพร่เชื้อได้ต่อไปอีก 5 วันหลังแสดงอาการ ผู้ป่วยที่ภูมิคุ้มกันบกพร่องอาจแพร่เชื้อได้นานกว่านั้น
Influenza Virus มีการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์อยู่ตลอดเวลา วัคซีนจึงไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้ทุกสายพันธุ์ หากได้รับวัคซีนหรือเคยป่วยเป็นโรคไข้หวัดใหญ่มาก่อน ร่างกายจะมีภูมิต้านทานโรคบางส่วน ซึ่งอาจช่วยป้องกันหรือลดความรุนแรงของโรคได้ แต่หากสัมผัสกับเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่ร่างกายไม่เคยรู้จักมาก่อน แอนติบอดีที่มีอยู่เดิมจะไม่สามารถสู้กับและป้องกันการติดเชื้อได้
รู้หรือไม่ : โรคไข้หวัดใหญ่เป็นสาเหตุของการเสียชีวิตราวๆ 250,000 – 500,000 คนในแต่ละปี
อาการของไข้หวัดใหญ่
อาการโรคมักเกิดขึ้นอย่างเฉียบพลันภายใน 1-4 วัน (โดยเฉลี่ย 2 วัน) หลังจากได้รับเชื้อ อาการที่พบบ่อย ได้แก่
- ไข้สูง 38-40 องศาเซลเซียส
- คัดจมูก น้ำมูกไหล
- เจ็บคอและไอแห้ง
- ปวดศีรษะ
- เมื่อยกล้ามเนื้อ
- อ่อนเพลีย
- ปวดตา
- ในเด็กอาจมีอาการท้องเสียร่วมด้วย
อาการที่ควรไปพบแพทย์
ส่วนใหญ่ผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สามารถพักรักษาตัวที่บ้านได้ ผู้ป่วยที่มีอายุมากกว่า 65 ปี เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคปอด โรคเบาหวาน โรคเอดส์ ควรรีบไปพบแพทย์หากมีอาการของไข้หวัดใหญ่ เนื่องจากมีความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนมากกว่าคนทั่วไป หากผู้ป่วยมีอาการดังต่อไปนี้ ควรไปพบแพทย์ทันที
อาการในผู้ใหญ่ ที่ควรรีบพบแพทย์
- เจ็บหน้าอก หายใจถี่หรือหายใจลำบาก
- มีไข้เกิน 24-48 ชั่วโมง
- ชัก
- อาเจียน รับประทานอาหารไม่ได้
- หน้ามืด เป็นลม สับสน หน้ามืด
- โรคประจำตัวกำเริบหรือทรุดตัว
อาการในเด็ก ที่ควรรีบพบแพทย์
- มีไข้เกิน 24 ชั่วโมง
- หายใจหอบ หรือหายใจลำบาก
- ภาวะขาดน้ำ
- ปากเขียว ปลายมือ ปลายเท้าเขียว
- ชัก
- ไม่กินอาหาร
- ปวดกล้ามเนื้ออย่างรุนแรง
- มีโรคประจำ
การรักษาโรคไข้หวัดใหญ่
สำหรับการรักษาโรคนั้น ยังไม่มียารักษาที่เฉพาะเจาะจง การพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำให้มากๆ และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันในการต่อสู้กับเชื้อไวรัส หากผู้ป่วยมีความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อน แพทย์อาจให้ยาเพื่อบรรเทาอาการ เช่น ยาลดไข้ ยาแก้ไอ ยาแก้ปวด และยาต้านไวรัส เป็นต้น
แผนประกันสุขภาพสำหรับรักษาโรค : www.aiagoodlife.com/health-insurance/
ค่ารักษาไข้หวัดใหญ่
ค่ารักษาไข้หวัดใหญ่กรณีที่ต้องได้นอนโรงพยาบาลเอกชนจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น สถานที่รักษา ค่าห้อง ค่าวิชาชีพหมอ ค่ายา ประเภทของการรักษาและความรุนแรงของอาการ โดยทั่วไปค่ารักษาไข้หวัดใหญ่ในโรงพยาบาลเอกชนดังๆ จะอยู่ที่ประมาณ 40,000 ถึง 80,000 บาท ต่อครั้ง กรณีที่ผู้ป่วยไม่มีอาการแทรกซ้อน
การป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่
มีวิธีป้องกันโรคหลายวิธี วิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดคือ การฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ วัคซีนป้องกันจะช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อและสามารถลดความรุนแรงของโรคได้ นอกจากนี้ยังมีวิธีอื่น ๆ ในการช่วยป้องกันโรค ได้แก่
- หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดกับผู้ป่วย หากเป็นไปได้ ให้หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผู้ที่มีอาการ เช่น ไอ จาม หรือมีไข้
- ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่และน้ำอย่างน้อย 20 วินาที หรือใช้เจลแอลกอฮอล์ล้างมือหากไม่มีสบู่และน้ำ
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณดวงตา จมูก หรือปาก เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สามารถเข้าสู่ร่างกายได้โดยการสัมผัสเหล่านี้
- ดูแลสุขภาพให้แข็งแรง เช่น พักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และออกกำลังกายเป็นประจำ
การฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่
การฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันการติดเชื้อไวรัส วัคซีนนี้จะช่วยให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสไข้หวัดหลายสายพันธุ์ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงในการป่วยเป็นแทรกซ้อนที่รุนแรงได้อีกด้วย
วัคซีนป้องกันสามารถฉีดได้ตั้งแต่อายุ 6 เดือนขึ้นไป โดยทั่วไปจะฉีดปีละครั้ง โดยควรฉีดก่อนฤดูไข้หวัดใหญ่ประมาณ 2 สัปดาห์
ข้อควรระวังในการฉีดวัคซีนป้องกันโรค
- ไม่ควรฉีด หากมีประวัติแพ้วัคซีนนี้หรือส่วนประกอบของวัคซีน
- ไม่ควรฉีด หากกำลังมีไข้สูงหรือมีโรคติดเชื้อรุนแรง
- ไม่ควรฉีดโดยไม่จำเป็น หากกำลังตั้งครรภ์
ผู้ที่มีประวัติแพ้สารโปรตีนประเภทไข่ ห้ามฉีดวัคซีนชนิดนี้
ผลข้างเคียงของวัคซีนไข้หวัดใหญ่
ผลข้างเคียงของวัคซีนไข้หวัดใหญ่ส่วนใหญ่มักไม่รุนแรงและหายไปเองภายในไม่กี่วัน ผลข้างเคียงที่พบบ่อยที่สุด ได้แก่ ปวด บวม หรือแดงบริเวณที่ฉีด มีไข้ต่ำ ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ อ่อนเพลีย เป็นต้น
ผลข้างเคียงที่พบได้น้อย ได้แก่
- คลื่นไส้ อาเจียน
- แพ้วัคซีน (anaphylaxis)
อาการแพ้วัคซีนไข้หวัดใหญ่ที่รุนแรง (anaphylaxis) นั้นพบได้น้อยมาก อาการจะแสดงออกภายในไม่กี่นาทีถึงสองสามชั่วโมงหลังจากฉีดวัคซีน อาการที่อาจเกิดขึ้น ได้แก่
- หายใจลำบาก
- หน้าบวม
- ลมพิษ
- หัวใจเต้นเร็ว
- เวียนศีรษะ
- หากมีอาการเหล่านี้หลังฉีดวัคซีน ควรรีบไปพบแพทย์ทันที
วิธีลดความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียงของวัคซีน
- พักผ่อนให้เพียงพอก่อนและหลังฉีดวัคซีน
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ
- รับประทานยาลดไข้หรือยาแก้ปวดตามคำแนะนำของแพทย์ หากมีอาการปวดหรือไข้
อาการไข้หวัดใหญ่ กี่วันหาย
โดยทั่วไปแล้ว ไข้หวัดใหญ่จะหายได้เองประมาณ 7-14 วัน อาการที่พบบ่อยที่สุด ได้แก่ ไข้สูง ไอ เจ็บคอ ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ และอ่อนเพลีย อาการเหล่านี้จะค่อย ๆ ดีขึ้นและหายไปเองตามลำดับ อย่างไรก็ตาม ในบางรายอาจมีอาการนานกว่านั้น เช่น ไออาจมีอาการนานถึง 2 สัปดาห์ ในรายที่มีอาการรุนแรง เช่น มีไข้สูงมาก ไอรุนแรง หายใจลำบาก หรือมีอาการแทรกซ้อน เช่น ปอดบวม อาจต้องรักษาตัวในโรงพยาบาล ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ อายุ สุขภาพโดยรวม ความรุนแรงของอาการและภาวะแทรกซ้อนของผู้ป่วยในแต่ละบุคคลด้วย
ข้อแตกต่างระหว่างไข้หวัดธรรมดากับไข้หวัดใหญ่
ไข้หวัดธรรมดาและไข้หวัดใหญ่เป็นการติดเชื้อทางเดินหายใจที่พบบ่อย แต่มีความแตกต่างที่สำคัญบางประการ ไข้หวัดธรรมดาเกิดจากไวรัสมากกว่า 200 ชนิด ในขณะที่ไข้หวัดใหญ่เกิดจากไวรัสไข้หวัดใหญ่ โดยทั้งสองแบบมีอาการคล้ายกันมาก โดยที่ไข้หวัดธรรมดามักมีอาการไม่รุนแรงและหายได้เองภายในไม่กี่วัน ในขณะที่ไข้หวัดใหญ่อาจรุนแรงกว่าและอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงได้
ไข้หวัดธรรมดาและไข้หวัดใหญ่เป็นโรคที่มีอาการคล้ายกันมาก แต่อาการของไข้หวัดใหญ่จะรุนแรงกว่าไข้หวัดธรรมดาอย่างเห็นได้ชัด
นอกจากนี้แล้วยังมีไวรัส RSV อีกที่มีอาการคล้ายกัน อ่านบทความ : ไวรัส RSV สาเหตุ อาการและวิธีรักษา ภัยร้ายใกล้ตัวเด็กเล็ก
หากมีข้อกังวลใด ๆ เกี่ยวกับผลข้างเคียงของวัคซีน ควรปรึกษาแพทย์
แหล่งอ้างอิง